รายละเอียดประกาศสหกรณ์ออมทรัพย์สำนักงาน ก.พ.จำกัด เกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย
คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์สำนักงาน ก.พ.จำกัด ได้มีมติให้ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินรับฝากและอัตราดอกเบี้ยเงินให้กู้แก่สมาชิก เพื่อให้สอดคล้องกับสถาบันการเงินอื่นๆ ตามสภาวการณ์ปัจจุบัน ดังนี้
ก. เงินรับฝาก
1. เงินรับฝากออมทรัพย์ อัตราดอกเบี้ย 1.35% ต่อปี
2. เงินรับฝากออมทรัพย์พิเศษ อัตราดอกเบี้ย 1.85% ต่อปี
ข. เงินให้กู้
1. เงินให้กู้สามัญ อัตราดอกเบี้ย 4.35% ต่อปี
เงินให้กู้กรณีอุทกภัย อัตราดอกเบี้ย 3.75% ต่อปี
เงินให้กู้เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต อัตราดอกเบี้ย 4.00% ต่อปี
2. เงินให้กู้เพื่อการเคหะสงเคราะห์ อัตราดอกเบี้ย 4.35% ต่อปี
3. เงินให้กู้เพื่อยานพาหนะ อัตราดอกเบี้ย 4.35% ต่อปี
4. เงินให้กู้เพื่อการลงทุน อัตราดอกเบี้ย 4.35% ต่อปี
ประกาศอัตราดอกเบี้ย ณ วันที่ 26 พฤษภาคม 2563
รายละเอียดบริการเงินกู้
สหกรณ์ให้บริการเงินกู้แก่สมาชิก โดยแบ่งเป็น 2 ประเภท ดังนี้
1. เงินกู้สามัญ
สหกรณ์จะให้สมาชิกกู้เงินเพื่อนำไปประกอบการต่างๆตามความจำเป็นของสมาชิก โดยมีหลักเกณฑ์การให้กู้ดังนี้
1.1 กู้ได้สูงสุด 55 เท่าของเงินเดือน แต่ไม่เกิน 2,000,000.- บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการเป็นสมาชิกดังนี้
- เป็นสมาชิกเกิน 6 เดือน แต่ไม่เกิน 12 เดือน กู้ได้ 12 เท่าของเงินเดือน
- เป็นสมาชิกเกิน 12 เดือน แต่ไม่เกิน 24 เดือน กู้ได้ 24 เท่าของเงินเดือน
- เป็นสมาชิกเกิน 24 เดือน กู้ได้ 55 เท่าของเงินเดือน
**ทั้งนี้ ต้องมีเงินเดือนคงเหลือหลังจากหักค่าใช้จ่ายต่างๆ แล้วไม่ต่ำกว่า 5,000.- บาท
1.2 ระยะเวลาการผ่อนชำระเงินกู้ สูงสุดไม่เกิน 144 งวด
1.3 หลักประกันเงินกู้
- ทุนเรือนหุ้นหรือเงินในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่มีอยู่ ณ สหกรณ์
- อสังหาริมทรัพย์อันปลอดจากภาระจำนองรายอื่น จำนองเป็นประกันเต็มจำนวนเงินที่ขอกู้
- สมาชิก ซึ่งคณะกรรมการเห็นสมควรอย่างน้อยหนึ่งคนค้ำประกันเพื่อหนี้สินเกี่ยวกับเงินกู้สามัญในครั้งนั้น ในส่วนที่เกินกว่าค่าหุ้นของผู้กู้ ทั้งนี้ คณะกรรมการอาจให้ผู้กู้มีผู้ค้ำประกันมากกว่าหนึ่งคนได้
คุณสมบัติผู้ค้ำประกัน
ก. เป็นสมาชิกสหกรณ์ และต้องรับราชการมาไม่ต่ำกว่า 2 ปี
ข. สมาชิกคนหนึ่งมีสิทธิค้ำประกันได้ 55 เท่าของเงินเดือนตนเองแต่ไม่เกิน 2,000,000.- บาท และจะเป็นผู้ค้ำประกันให้กับผู้กู้สามัญ มากกว่า 3 คนไม่ได้
ค. เมื่อผู้ค้ำประกันคนใดตาย หรือออกจากสหกรณ์โดยเหตุอื่นหรือมีเหตุที่คณะกรรมการสหกรณ์เห็นว่าไม่สมควร หรือไม่อาจที่จะเป็นผู้ค้ำประกันต่อไป ผู้กู้จะต้องจัดหาสมาชิกอื่น ที่คณะกรรมการเห็นสมควรเข้าเป็นผู้ค้ำประกันแทนคนเดิมให้เสร็จภายในระยะเวลาที่กรรมการกำหนด
ง. การที่สมาชิกผู้ค้ำประกันออกจากสหกรณ์ ไม่ว่าเพราะเหตุใดๆ ไม่เป็นเหตุให้ผู้นั้นหลุดพ้นจากการค้ำประกัน
จ. ผู้กู้จะให้สมาชิกที่เป็นลูกจ้างประจำเป็นผู้ค้ำประกัน แต่เพียงคนเดียวไม่ได้ ต้องจัดหาให้มีผู้ค้ำประกันอย่างน้อยอีกหนึ่งรายร่วมค้ำประกันด้วย
* ผู้ค้ำประกันโปรดตัดสินใจให้ดีก่อนทำการค้ำประกันทุกครั้ง ท่านมีสิทธิไม่ค้ำประกันผู้ใดเลยก็ได้ เพราะสหกรณ์สงวนสิทธิที่จะไม่เปิดเผยสิทธิค้ำประกันของสมาชิกกับผู้อื่นโดยเด็ดขาด *
1.4 การยื่นคำขอกู้
- ผู้ขอกู้ จะต้องเสนอคำขอกู้ตามแบบของสหกรณ์ ต่อผู้บังคับบัญชาไม่ต่ำกว่าผู้อำนวยการกอง เพื่อให้ความเห็น
- ผู้ขอกู้เสนอรายละเอียดของทรัพย์สินที่จะนำมาค้ำประกัน หากใช้บุคคลค้ำประกัน จะต้องมีลายมือชื่อของผู้ค้ำประกันในแบบคำขอกู้ของสหกรณ์
- แนบใบเสร็จรับเงินเดือนสุดท้าย พร้อมแบบคำขอกู้
- ยื่นคำขอกู้ต่อสหกรณ์ ภายในวันที่ 20 ของทุกเดือน จะได้รับการพิจารณาคำขอกู้จากคณะกรรมการเงินกู้ ภายในเดือนนั้นและรับเงินในเดือนถัดไป
1.5 การรับเงิน และการจัดทำสัญญา
- กรุณาไปติดต่อเพื่อจัดทำสัญญาเงินกู้ สัญญาค้ำประกัน ตามวันที่สหกรณ์นัดหมาย กรณีที่ผู้ขอกู้หรือผู้ค้ำประกันสมรสแล้วต้องมีคำอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากคู่สมรสในการทำสัญญากู้ หรือสัญญาค้ำประกัน กรณีที่เป็นหม้ายต้องมีหลักฐานมาแสดงด้วย
- หากผู้ขอกู้ใช้อสังหาริมทรัพย์ค้ำประกัน จะต้องทำการจดจำนองให้เสร็จสิ้นก่อนรับเงินกู้
- สหกรณ์จะมีการพิจารณาเงินกู้สามัญประมาณสิ้นเดือน เดือนละ 1 ครั้ง และจะจ่ายเงินให้ผู้กู้ประมาณสัปดาห์แรกของเดือนถัดไป
- ถ้ามีหนี้สามัญเก่าค้างชำระ สหกรณ์จะหักหนี้เก่าทั้งหมดพร้อมดอกเบี้ยในวันรับเงินกู้
1.6 การคิดดอกเบี้ยเงินกู้ และการส่งเงินชำระหนี้
- สหกรณ์จะคิดดอกเบี้ยเป็นรายวันซึ่งเป็นระบบสากล “ ดอกเบี้ยรายวันคิดโดยวิธีนับระยะเวลาเป็นวัน “ การนับระยะเวลาเป็นวัน ให้นับถัดจากวันจ่ายเงินกู้ 1 วัน จนถึงวันที่สมาชิกชำระเงินกู้
- การส่งเงินชำระหนี้ สหกรณ์จะหักจากเงินได้รายเดือนของสมาชิกในวันจ่ายเงินได้รายเดือนประจำเดือนนั้นๆทุกเดือน เว้นแต่ไม่สามารถหักจากเงินได้รายเดือนให้นำมาส่งด้วยตนเอง ( ต้องผ่อนชำระเงินกู้เป็นงวดรายเดือน โดยส่งเงินต้นเท่ากันทุกเดือนพร้อมด้วยดอกเบี้ยของหนี้ที่คงเหลือของเดือนนั้นๆ ตามอัตราและภายในระยะเวลาที่สหกรณ์กำหนด )
- สมาชิกสามารถส่งคืนเงินต้นเร็วกว่าที่กำหนดไว้ในสัญญาได้และหากต้องการชำระหนี้คืนบางส่วนนอกจากส่งชำระรายเดือน กรุณานำไปชำระให้สหกรณ์ก่อนวันที่ 15 ของทุกเดือน
** สมาชิกผู้กู้สามัญจากสหกรณ์ไปแล้ว เมื่อได้ส่งเงินชำระหนี้ให้แก่สหกรณ์ แล้ว 12 งวด จึงจะมีสิทธิยื่นคำขอกู้สามัญใหม่ได้ หากมีความจำเป็นที่จะต้องยื่นกู้ก่อนกำหนดให้มีหนังสือแจ้งเหตุผลประกอบคำขอกู้ด้วย **
*** สมาชิกผู้ใดปลอมลายเซ็นต์ผู้อื่น เพื่อหาประโยชน์ของตนเองจะมีโทษ ทางวินัย และอาญา ***
2. เงินกู้พิเศษ
การให้เงินกู้พิเศษแก่สมาชิก จะให้เฉพาะเพื่อความมุ่งหมาย ดังนี้
ก. การกู้เพื่อการเคหะสงเคราะห์ ได้แก่ เงินกู้อันมีความมุ่งหมายเพื่อนำไปใช้ในการดังนี้
(1) เพื่อการก่อสร้าง หรือต่อเติมอาคาร หรือปรับปรุงอาคาร และหรือที่ดินสำหรับใช้เป็นที่อยู่อาศัยของตนเอง และครอบครัวตามสมควรแก่ฐานะ
(2) เพื่อการซื้ออาคาร หรือซื้อที่ดินและอาคาร สำหรับใช้เป็นที่อยู่อาศัยของตนเอง และครอบครัวตามสมควรแก่ฐานะ หรือซื้อที่ดินเพื่อจะก่อสร้างอาคารสำหรับใช้เป็นที่อยู่อาศัยดังกล่าวในระยะเวลาอันสมควร
(3) เพื่อไถ่ถอนอาคารและที่ดิน ที่เป็นที่อยู่อาศัยของตนเอง และครอบครัวตามสมควรแก่ฐานะ
(4) เพื่อการซึ่งเกี่ยวข้อง หรือจำเป็นเกี่ยวกับการตาม (1) หรือ (2) หรือ (3)
ข. การกู้เพื่อการลงทุนประกอบกิจการ ได้แก่ เงินกู้อันมีความมุ่งหมายเพื่อนำไปใช้เกี่ยวกับการลงทุนประกอบกิจการของสมาชิกผู้กู้ และครอบครัวอันจะก่อประโยชน์งอกเงย
ค. การกู้เพื่อการมียานพาหนะ ได้แก่ เงินกู้อันมีความมุ่งหมายเพื่อไปใช้ซื้อ เช่าซื้อ หรือแลกเปลี่ยนยานพาหนะ เพื่อจะเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง และใช้สอยในครอบครัวของตนตามควรแก่ฐานะ
วงเงินกู้และกำหนดเวลาส่งคืน
1. จำนวนเงินกู้เพื่อการเคหะสงเคราะห์ คณะกรรมการดำเนินการจะพิจารณาให้กู้ตามจำนวนที่เห็นสมควร โดยคำนึงถึงฐานะและความจำเป็น ตลอดจนความสามารถในการชำระหนี้ของสมาชิกผู้กู้ แต่ไม่เกิน 10 ล้านบาท และใช้คืนภายใน 360 เดือน ( 25 ปี ทั้งนี้อายุของผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาผ่อนชำระแล้วต้องไม่เกิน 75 ปี )
2. จำนวนเงินขอกู้เพื่อการลงทุนประกอบกิจการ คณะกรรมการดำเนินการจะพิจารณาให้กู้ตามจำนวนที่เห็นสมควร โดยคำนึงถึงความต้องการเงินกู้แท้จริงตามแผนงานประกอบกิจการและความสามารถชำระหนี้ของผู้กู้ แต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท ใช้คืนภายใน 144 เดือน ( 10 ปี ทั้งนี้อายุของผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาผ่อนชำระแล้วต้องไม่เกิน 75 ปี ) ทั้งนี้สมาชิกผู้ขอกู้ต้องแสดงหลักฐานให้เป็นที่พอใจของคณะกรรมการว่า ตนจะออกทุนเป็นจำนวนอย่างน้อยหนึ่งในสี่ของจำนวนทุนทั้งหมดที่จะต้องลงทุนประกอบกิจการ
3. จำนวนเงินขอกู้เพื่อการมียานพาหนะ คณะกรรมการดำเนินการจะพิจารณาให้กู้ตามที่เห็นสมควร โดยคำนึงถึงความจำเป็นและความสามารถชำระหนี้ของสมาชิกผู้กู้แต่ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ชำระคืนภายใน 144 เดือน ( 10 ปี ทั้งนี้อายุของผู้กู้เมื่อรวมกับระยะเวลาผ่อนชำระแล้วต้องไม่เกิน 75 ปี )
คุณสมบัติของผู้กู้
เป็นสมาชิกสหกรณ์ตั้งแต่ 6 เดือน โดยสมบรูณ์
หลักประกันเงินกู้
1. เงินฝากในสหกรณ์ออมทรัพย์สำนักงาน ก.พ. จำกัด ซึ่งคณะกรรมการดำเนินการเห็นสมควรจำนำเป็นประกัน
2. อสังหาริมทรัพย์อันปลอดจากภาระจำนอง ปลอดจากภาระติดพัน และปลอดจากการรอนสิทธิในอสังหาริมทรัพย์นั้น มาจำนองเป็นประกันเต็มจำนวนเงินกู้รายนั้น
ทั้งนี้หลักทรัพย์นั้นจะต้องอยู่ใน กรุงเทพฯ หรือปริมณฑลที่สามารถเดินทางไป - กลับได้ภายในวันเดียว และรถยนต์เข้าถึงที่ดินได้โดยสะดวก โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการดังนี้
2.1 อาคารพร้อมที่ดิน : กรณีอาคารใหม่ ให้กู้ได้ไม่เกิน 80 % ของราคาซื้อขายโครงการ หรือ ให้กู้ได้ไม่เกินราคารวมที่ดิน 1.7 เท่า และอาคาร 100 % ของราคาประเมินแต่ไม่เกินราคาซื้อขาย
อาคารพร้อมที่ดิน : กรณีอาคารเก่า ให้กู้ได้ไม่เกิน 90 % ของราคาประเมินแต่ไม่เกินราคาซื้อขาย
ที่ดินเปล่า ใช้ค้ำประกันได้ไม่เกิน 70 % ของราคาประเมิน
2.2 ห้องชุด : กรณีห้องชุดใหม่ ให้กู้ได้ไม่เกิน 80 % ของราคาซื้อขายโครงการ หรือ ให้กู้ได้ไม่เกิน 100 % ของราคาประเมินแต่ไม่เกินราคาซื้อขาย
ห้องชุด : กรณีห้องชุดเก่า ให้กู้ได้ไม่เกิน 90 % ของราคาประเมินแต่ไม่เกินราคาซื้อขาย