สิทธิประโยชน์

เงินปันผลตามหุ้น

เมื่อสิ้นปีบัญชีสหกรณ์จะจ่ายเงินปันผลตามหุ้นให้แก่สมาชิกตามที่ประชุมใหญ่จัดสรรให้ ทั้งนี้ในอัตราไม่เกินอัตราที่คณะกรรมการพัฒนาการสหกรณ์แห่งชาติกำหนด โดยคิดให้ตามส่วนระยะเวลา และจำนวนหุ้นที่สมาชิกมีอยู่ในสหกรณ์

ตัวอย่างการคิดเงินปันผลของปี 2543/2544

สมมติ เงินปันผล เท่ากับ 10.00 % สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2543 ท่านมีทุนเรือนหุ้น 20,000.- บาท ท่านส่งค่าหุ้นรายเดือน( มี.ค. 43 - ก.พ. 44 ) เดือนละ 500.- บาท ให้นำค่าหุ้นสิ้น ก.พ. 43 บวก ค่าหุ้นรายเดือน มี.ค. 44 หรือเท่ากับ 20,500.- บาท ( 20,000 + 500 ) แล้วให้คิดคำนวณดังนี้

(1) 20,500 x 10/100 x 12/12 = 2,050.- บาท

(2) ค่าหุ้นรายเดือนของเดือน เม.ย. 43 - ก.พ. 44 คำนวนดังนี้

500  x  10/100  x  11/12  = 45.83 บาท

500  x  10/100  x  10/12  =  41.67 บาท

500  x 10/100  x  9/12  = 37.50 บาท

500  x 10/100  x  8/12 = 33.33 บาท

500  x 10/100  x  7/12 =  29.17 บาท

500  x 10/100  x  6/12 = 25.00 บาท

500  x 10/100  x  5/12 =  20.83 บาท

500  x 10/100  x  4/12 = 16.67 บาท

500  x 10/100  x  3/12 = 12.50 บาท

500  x 10/100  x  2/12 =  8.33 บาท

500  x 10/100  x  1/12 =  4.17 บาท

รวมผลลัพธ์ที่ได้ (2) ทั้งหมด  =  275.00 บาท

ให้นำ (1) + (2) = 2,050 + 275 = 2,325.00 บาท

เงินปันผลที่ท่านได้ก็คือ 2,325.00 บาท

* ปีบัญชี2543/2544 ของ สอ.สกพ. เริ่มตั้งแต่ 1 เมษายน 2543 ถึง 31 มีนาคม 2544

** การนับระยะเวลาปันผลให้คิด 1 ปี เท่ากับ 12 เดือน

เงินเฉลี่ยคืนดอกเบี้ยเงินกู้

สมาชิกที่มีสิทธิรับเงินเฉลี่ยคืน คือสมาชิกที่กู้เงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์ สำนักงาน ก.พ. เท่านั้น โดยคิดจากดอกเบี้ยที่สมาชิกชำระให้แก่สหกรณ์ตลอดปีบัญชีของสหกรณ์

ตัวอย่างการคิดเงินเฉลี่ยคืนของปี 2543/2544

สมมติเงินเฉลี่ยคืนเท่ากับ 8 % ตั้งแต่ 1 เมษายน 2543 ถึง 31 มีนาคม 2544 ท่านชำระดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่สหกรณ์ ดังนี้

เมษายน 43  ชำระดอกเบี้ย 1,500.- บาท
พฤษภาคม 4 ชำระดอกเบี้ย 1,370.- บาท
มิถุนายน 43 ชำระดอกเบี้ย 1,165.- บาท
กรกฎาคม 43 ชำระดอกเบี้ย 1,002.- บาท
สิงหาคม 2543 ชำระดอกเบี้ย 998.- บาท
กันยายน 2543 ชำระดอกเบี้ย 842.- บาท
ตุลาคม 2543 ชำระดอกเบี้ย 794.- บาท
พฤศจิกายน 2543 ชำระดอกเบี้ย 674.- บาท
ธันวาคม 2543 ชำระดอกเบี้ย 536.- บาท
มกราคม 2544 ชำระดอกเบี้ย 479.- บาท
กุมภาพันธ์ 2544 ชำระดอกเบี้ย 412.- บาท
มีนาคม 2544 ชำระดอกเบี้ย 394.- บาท

รวมทั้งสิ้น 10,166.- บาท

ท่านจะได้รับเงินเฉลี่ยคืนเท่ากับ 10,166 x 8% = 813.- บาท

*** สมาชิกที่ผิดนัดการส่งเงินงวดชำระหนี้ไม่ว่าต้นเงินหรือดอกเบี้ย ในปีใดจะไม่ได้รับเงินเฉลี่ยคืนสำหรับปีนั้น

*** หมายเหตุ การจ่ายเงินปันผล และเงินเฉลี่ยคืน สหกรณ์ได้กำหนดวิธีการจ่ายเงินให้แก่ สมาชิกเป็น 3 ลักษณะ คือ

1. กรณีสมาชิกมีบัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ อยู่กับ ธนาคารกรุงเทพ สาขาสำนักงาน ก.พ. สหกรณ์จะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากดังกล่าว

2. กรณีไม่มีบัญชีเงินฝากสะสมทรัพย์ อยู่กับ ธนาคารกรุงเทพ แต่มีบัญชี เงินฝากออมทรัพย์ อยู่กับสหกรณ์ จะโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์

3. กรณีไม่มีบัญชีเงินฝากตาม 1 และ 2 สหกรณ์จะจ่ายเป็นเงินสด

 

1.ทุนสาธารณประโยชน์เพื่อการศึกษาบุตรสมาชิก

1. ทุนส่งเสริมการศึกษาบุตรสมาชิกในปีหนึ่งๆ จำแนกการให้ทุนเป็นระดับต่างๆ ดังต่อไปนี้

1.1 ชั้นประถมศึกษา

1.2 ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น

1.3 ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย

2. จำนวนทุนและมูลค่าของทุนส่งเสริมการศึกษาบุตรสมาชิกแต่ละปีนั้นขึ้นอยู่กับผลการจัดสรรกำไรสุทธิในปีนั้นๆ ตามที่คณะกรรมการดำเนินการเห็นสมควร

3. คุณสมบัติของผู้ขอรับทุนมีดังนี้

3.1 เป็นบุตรสมาชิก แต่ไม่รวมบุตรบุญธรรม

3.2 เป็นผู้มีผลการเรียนทั้งปีการศึกษาอยู่ในระดับดี ตามระเบียบว่าด้วยการประเมินผลการเรียนของกระทรวงศึกษาธิการ

3.3 เป็นผู้มีความประพฤติดี

3.4 เป็นผู้กำลังศึกษาอยู่ระหว่างชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ( ป.1 ) ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 5 ( ม.5 ) ทั้งสายสามัญหรือวิชาชีพในสถานศึกษาของทางราชการ หรือเอกชนที่ทางราชการรับรอง

4. ในการขอรับทุนนั้น สมาชิกจะต้องยื่นเอกสาร ดังต่อไปนี้

4.1 สำเนาทะเบียนบ้าน หรือสูติบัตรของผู้ขอรับทุน

4.2 ใบรับรองผลการศึกษาตามข้อ 3.2 จากสถานศึกษาที่บุตรสมาชิกศึกษาอยู่ในปีที่แล้ว

4.3 สมุดรายงานประจำตัวนักเรียน หรือหนังสือรับรองความประพฤติของครูประจำชั้นที่บุตรสมาชิกศึกษาอยู่ในปีที่แล้ว

** สหกรณ์จะประกาศให้สมาชิกขอรับทุนเพื่อการศึกษาบุตรประมาณเดือนกุมภาพันธ์ และจะมีพิธีมอบทุนในวันประชุมใหญ่สามัญประจำปี **

2.ทุนสาธารณประโยชน์เพื่อสงเคราะห์สมาชิกผู้ประสบอัคคีภัย

1. สมาชิกผู้มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์ ต้องเป้นไปตามหลักเกณฑ์ ดังนี้

1.1 เป็นผู้ประสบอัคคีภัยในขณะที่เป็นสมาชิก

1.2 เป็นผู้ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากเคหะสถานที่อยู่อาศัยในขณะนั้นประสบอัคคีภัยไม่ว่าเคหะสถานที่อยู่อาศัยนั้นจะเป็นกรรมสิทธิ์ของตนหรือไม่ก็ตาม

2. เงินสงเคราะห์เพื่อการนี้ ให้ได้รับรายละ 5,000.- บาท

3. ในการขอรับทุน

3.1 ให้ยื่นเรื่องขอรับเงินสงเคราะห์ พร้อมแนบหลักฐานประกอบต่อสหกรณ์โดยเร็ว

3.2 นัดวันที่จะพากรรมการไปดูเคหะสถานที่ประสบอัคคีภัยเพื่อรายงานต่อคณะกรรมการดำเนินการพิจารณา

3.ทุนสาธารณประโยชน์เพื่อสงเคราะห์เกี่ยวกับการศพของสมาชิก และครอบครัว

1. คำนิยาม

ครอบครัว หมายความถึง บิดา มารดา คู่สมรส บุตรของสมาชิก

สมาชิก หมายความถึง สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์สำนักงาน ก.พ.

คู่สมรส หมายความถึง คู่สมรสของสมาชิกที่จดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย 

บุตร หมายความถึง บุตรที่ถูกต้องตามกฎหมายของสมาชิก แต่ไม่รวมบุตรบุญธรรม

บิดา มารดา หมายความถึง บิดา มารดา ของสมาชิก

2. สมาชิกผู้ใดถึงแก่กรรม ให้ผู้มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์ตามหลักเกณฑ์ ดังนี้

เป็นสมาชิกไม่เกิน 1 ปี ให้ได้รับเงินสงเคราะห์ จำนวน 20,000.- บาท

เป็นสมาชิกเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ให้ได้รับเงินสงเคราะห์เกี่ยวกับศพ จำนวน 24,000.- บาท

เป็นสมาชิกเกิน 3 ปี แต่ไม่เกิน 6 ปี ให้ได้รับเงินสงเคราะห์เกี่ยวกับศพ จำนวน 31,000.- บาท

ป็นสมาชิกเกิน 6 ปี แต่ไม่เกิน 9 ปี ให้ได้รับเงินสงเคราะห์เกี่ยวกับศพ จำนวน 38,000.- บาท

เป็นสมาชิกเกิน 9 ปี แต่ไม่เกิน 12 ปี ให้ได้รับเงินสงเคราะห์เกี่ยวกับศพ จำนวน 46,000.- บาท

เป็นสมาชิกเกิน 12 ปี แต่ไม่เกิน 15 ปี ให้ได้รับเงินสงเคราะห์เกี่ยวกับศพ จำนวน 55,000.- บาท

เป็นสมาชิกเกิน 15 ปี แต่ไม่เกิน 18 ปี ให้ได้รับเงินสงเคราะห์เกี่ยวกับศพ จำนวน 65,000.- บาท

เป็นสมาชิกเกิน 18 ปี แต่ไม่เกิน 21 ปี ให้ได้รับเงินสงเคราะห์เกี่ยวกับศพ จำนวน 70,000.- บาท

เป็นสมาชิกเกิน 21 ปี ขึ้นไปให้ได้รับเงินสงเคราะห์เกี่ยวกับศพ จำนวน 80,000.- บาท

** การนับระยะเวลาการเป็นสมาชิกให้นับเฉพาะปีที่ส่งทุนเรือนหุ้นครบถ้วน หากสมาชิกลาออกแล้วสมัครใหม่ให้นับเฉพาะเวลาที่เป็นสมาชิกครั้งหลังสุด

3. สมาชิกผู้ใดถึงแก่กรรม ให้ผู้มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือสงเคราะห์ในการดำเนินการเรื่องงานศพ และหรีดในนามสหกรณ์ออมทรัพย์ สำนักงาน ก.พ. จำกัด จำนวน 8,500.- บาท

4. คู่สมรส หรือบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และรวมถึงบุตรที่บรรลุนิติภาวะแล้ว แต่ทุพพลภาพ และหาเลี้ยงตนเองไม่ได้ หรือบิดา มารดา ของสมาชิกผู้ใดถึงแก่กรรม ให้มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือสงเคราะห์ในการดำเนินการเรื่องงานศพ ในนามสหกรณ์ออมทรัพย์ สำนักงาน ก.พ. จำกัด จำนวน 5,000.- บาท

5. สหกรณ์จะจ่ายเงินสงเคราะห์เกี่ยวกับการศพตามข้อ 2 หรือ 3 หลังจากที่ได้หักชำระหนี้สินของสมาชิกผู้ถึงแก่กรรมที่มีอยู่กับสหกรณ์แล้ว และจ่ายแก่ผู้มีชื่อระบุให้เป็นผู้รับประโยชน์ตามหนังสือตั้งผู้รับประโยชน์ หรือคู่สมรส หรือบุตร หรือบิดา หรือมารดา เป็นผู้รับตามลำดับ

สำหรับเงินสงเคราะเกี่ยวกับการศพตามข้อ 4 ให้จ่ายแก่สมาชิกเป็นผู้รับ

6. เมื่อสมาชิก หรือคู่สมรส หรือบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และรวมถึงบุตรที่บรรลุนิติภาวะแล้วแต่ทุพพลภาพและหาเลี้ยงตนเองไม่ได้ หรือบิดา หรือมารดาของสมาชิกถึงแก่กรรมให้ผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์เกี่ยวกับการศพ แจ้งเป็นหนังสือให้คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ สำนักงาน ก.พ. จำกัด ทราบและขอรับเงินสงเคราะห์พร้อมทั้งแนบหลักฐาน หนังสือขอรับเงินสงเคราะห์ตามแบบที่สหกรณ์กำหนด ใบมรณบัตรพร้อมสำเนาทะเบียนบ้านของผู้ตาย และบัตรประจำตัวข้าราชการหรือลูกจ้างหรือบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ขอรับเงินสงเคราะห์พร้อมสำเนา หรือเอกสารอื่นตามที่คณะกรรมการกำหนดภายใน ๙๐ วัน นับแต่วันถึงแก่กรรม ในกรณีที่ใช้สำเนาเป็นหลักฐานเอกสาร ต้องมีหัวหน้าหน่วยงานหรือสมาชิกที่เป็นข้าราชการที่ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าตำแหน่งประเภททั่วไป ระดับชำนาญงาน หรือตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการ หรือเทียบเท่าเป็นผู้รับรอง

7. สหกรณ์ย่อมทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะงดจ่าย หรือลดจำนวนเงินสงเคราะห์ลงน้อยกว่าหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ตามข้อ 2 หรือข้อ 3 หรือข้อ 4 ได้หากปรากฎว่า

7.1 สมาชิก หรือคู่สมรส หรือบุตร หรือบิดา หรือมารดาถึงแก่กรรมเนื่องจากตนกระทำความผิดทางอาญา

7.2 เงินทุนสาธารณประโยชน์ ซึ่งที่ประชุมใหญ่จัดสรรไว้ตามความในข้อบังคับของสหกรณ์ข้อ 27 ( 5 ) หมดลงหรือมีจำนวนคงเหลือน้อยลงตามที่คณะกรรมการดำเนินการได้พิจารณาเห็นชอบ

8. การพิจารณาจ่ายเงินสงเคราะห์นี้ให้พิจารณาตามลำดับคำร้องที่ยื่นขอรับการสงเคราะห์และต้องจัดให้ผู้รับทำหลักฐานการรับเงินให้แก่สหกรณ์ทุกราย

4.ทุนสาธารณประโยชน์เพื่อสงเคราะห์สมาชิกในกรณีประสบอุบัติเหตุ

1. เมื่อสมาชิกประสบอุบัติเหตุ จนต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล ไม่ว่าเป็นโรงพยาบาลของทางราชการ หรือเอกชนก็ตามในประเภทคนไข้ใน สหกรณ์จะจ่ายเงินช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลในส่วนที่ไม่สามารถเบิกจากทางราชการ และหรือประกันภัยได้ตามอัตราดังนี้

1.1 ค่ายา ค่าอุปกรณ์ และค่าบริการทางแพทย์ ครั้งละไม่เกิน 5,000.- บาท

1.2 ค่าอาหาร และค่าห้อง วันละไม่เกิน 600.- บาท เป็นเวลา ไม่เกิน 15 วัน

2. การยื่นขอรับเงินสงเคราะห์ ให้มีหนังสือยื่นต่อสหกรณ์ภายใน 45 วัน นับตั้งแต่วันที่สมาชิกออกจากโรงพยาบาล

3. ในการยื่นขอรับเงินสงเคราะห์ ผู้ยื่นจะต้องนำส่งเอกสารหลักฐานประกอบดังนี้

3.1 หนังสือรับรองจากโรงพยาบาล หรือใบรับรองแพทย์

3.2 ใบเสร็จรับเงิน หรือใบเรียกเก็บเงิน

3.3 ในกรณีขอเบิกค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามข้อ 1.3 หากไม่มีใบเสร็จรับเงิน หรือใบเรียกเก็บเงิน ก็ให้สมาชิกผู้ขอเบิกรับรองรายการค่าใช้จ่ายตามแบบของทางราชการโดยอนุโลม